เราได้นำเสนอชุดตัวชี้วัด ‘ต่อหุ้น’ อันทรงพลังให้กับ ตัวคัดกรองหุ้น และหน้าสัญลักษณ์ — ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเปรียบเทียบบริษัทได้แม่นยำยิ่งขึ้น มาดูกันว่าคุณสามารถเพิ่มข้อมูลอะไรลงใน การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ของคุณเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทำไมตัวชี้วัด ‘ต่อหุ้น’ จึงสำคัญ
ตัวชี้วัด ‘ต่อหุ้น’ ช่วยให้คุณประเมินบริษัทต่างๆ ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงขนาด ตัวชี้วัดเหล่านี้เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของธุรกิจ ความน่าดึงดูดใจสำหรับผู้ถือหุ้น และความยืดหยุ่นทางการเงิน
ยกตัวอย่างกระแสเงินสดอิสระ (FCF) ต่อหุ้น ตัวชี้วัดนี้แสดงให้เห็นว่ากระแสเงินสดอิสระ (เงินทุนที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายด้านทุน) ของแต่ละหุ้นมีสัดส่วนเท่าใด ตัวชี้วัดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจความสามารถของบริษัทในการจ่ายเงินปันผล ซื้อหุ้นคืน หรือลดหนี้โดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนภายนอก
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเปรียบเทียบบริษัทในกลุ่มพลังงานสองแห่ง บริษัทหนึ่งขนาดใหญ่ อีกบริษัทหนึ่งขนาดกลาง ทั้งสองบริษัทอาจสร้างกระแสเงินสดอิสระได้ใกล้เคียงกันในค่าสุทธิ แต่บริษัทขนาดเล็กกว่าอาจมีกระแสเงินสดอิสระต่อหุ้นที่สูงกว่า
ตัวชี้วัด | บริษัทที่ใหญ่กว่า | บริษัทที่เล็กกว่า |
กระแสเงินสดอิสระ, ล้าน $ | 1,000 | 500 |
จำนวนหุ้น, ล้านหน่วย | 200 | 50 |
กระแสเงินสดอิสระต่อหุ้น, $ | 5 | 10 |
ราคาหุ้น, $ | 50 | 40 |
Yield (FCF‑yield), % | 10% | 25% |
ในตัวอย่างข้างต้น บริษัทขนาดกลางสร้าง FCF ต่อหุ้นได้สองเท่า ให้ผลตอบแทน FCF ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าให้กับผู้ถือหุ้น
ทีนี้ มาดูกันว่ามีตัวชี้วัดอื่นๆ อะไรบ้าง และตัวชี้วัดเหล่านั้นช่วยในการวิเคราะห์ของคุณอย่างไร
รายได้ต่อหุ้น | รายได้ที่คิดเป็นของแต่ละหุ้น เหมาะสำหรับการเปรียบเทียบธุรกิจที่มีขนาดแตกต่างกันและประสิทธิภาพภายในหมวดหมู่เดียวกัน |
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานต่อหุ้น | กระแสเงินสดจากการดำเนินงานต่อหุ้น แสดงให้เห็นว่ากำไรที่รายงานได้รับการสนับสนุนจากกระแสเงินสดเข้าจริงได้ดีเพียงใด |
กระแสเงินสดอิสระต่อหุ้น | แสดงจำนวนเงินคงเหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายด้านทุน ใช้เพื่อประเมินความสามารถของบริษัทในการจ่ายเงินปันผล การซื้อหุ้นคืน หรือการลดหนี้ |
EBIT ต่อหุ้น | กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีต่อหุ้น ช่วยประเมินผลการดำเนินงานโดยไม่กระทบต่อภาษี/หนี้ |
EBITDA ต่อหุ้น | กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อหุ้น ใช้เพื่อประเมินความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่ใช้เงินทุนจำนวนมาก |
มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น | มูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหุ้นตามงบดุล ซึ่งมีประโยชน์ในการประเมินมูลค่าพื้นฐานและระบุหุ้นที่อาจมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง |
หนี้สินรวมต่อหุ้น | หนี้สินรวมของบริษัทที่จัดสรรต่อหุ้น มีประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์เสถียรภาพทางการเงินและเปรียบเทียบระดับหนี้สินระหว่างบริษัท |
เงินสดต่อหุ้น | เงินสดและรายการเทียบเท่าต่อหุ้น ช่วยประเมินสภาพคล่องและเงินสำรองที่มีอยู่เพื่อครอบคลุมหนี้สินระยะสั้น |
มูลค่าสินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิต่อหุ้น | แสดงความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียนต่อหุ้น ใช้ในการวิเคราะห์มูลค่าเชิงลึกเพื่อระบุหุ้นที่มีการซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าสินทรัพย์สภาพคล่อง |
มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นที่จับต้องได้ | สินทรัพย์ที่จับต้องได้ (ไม่รวมสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้) ต่อหุ้น ซึ่งให้มุมมองที่ระมัดระวังเกี่ยวกับมูลค่าธุรกิจคงเหลือ |
เงินทุนหมุนเวียนต่อหุ้น | สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียน ช่วยประเมินความสามารถของบริษัทในการชำระหนี้ระยะสั้นและรักษาการดำเนินงานให้มีเสถียรภาพ |
CapEx ต่อหุ้น | ค่าใช้จ่ายด้านทุนต่อหุ้น ใช้ในการประเมินกลยุทธ์การเติบโตและกิจกรรมการลงทุน |
รายงานครึ่งปีและคอลัมน์ใหม่
เรายังได้เพิ่มช่วงเวลาการรายงานครึ่งปีเป็นอีกช่วงเวลาสำหรับตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญ ค่านี้รวมตัวเลขสองไตรมาสติดต่อกันล่าสุด ทำให้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์บริษัทที่มีตารางการรายงานที่ไม่เป็นมาตรฐาน ซึ่งมักพบนอกสหรัฐอเมริกา
เพื่อความโปร่งใสและความชัดเจน จึงมีการเพิ่มคอลัมน์ใหม่สองคอลัมน์ ได้แก่:
- วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี — วันที่ระบุวันสิ้นสุดรอบระยะเวลารายงานที่บริษัทจัดทำงบการเงิน ตัวอย่างเช่น วันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ.2025 จะเป็นวันสิ้นสุดรอบระยะเวลารายงาน
- รอบระยะเวลาบัญชี — ระบุรอบระยะเวลารายงานของบริษัทที่งบการเงินใช้ เช่น Q2 2025, H1 2025, หรือ FY 2024 ซึ่งจะช่วยระบุได้อย่างชัดเจนว่าตัวชี้วัดต่างๆ สอดคล้องกับรอบระยะเวลาใด
คอลัมน์ใหม่เหล่านี้ช่วยให้ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาการรายงานเบื้องหลังตัวชี้วัดแต่ละตัว ทำให้การเปรียบเทียบข้ามบริษัทง่ายขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น
ขณะนี้ตัวคัดกรองหุ้นรองรับช่วงเวลาการรายงานต่อไปนี้:
- รายไตรมาส
- รายครึ่งปี
- รายปี
- TTM (12 เดือนย้อนหลัง)
วิธีใช้งานตัวชี้วัดใหม่
ในตัวคัดกรองหุ้น คุณสามารถเพิ่มตัวชี้วัดต่อหุ้นเป็นคอลัมน์หรือตัวกรองได้ง่ายๆ
หากต้องการเพิ่มตัวกรอง ให้คลิกปุ่ม + หรือกด Shift + F บนอุปกรณ์ Windows และ Mac ที่แผงด้านบน จากนั้นเลือกตัวชี้วัดที่ต้องการ จากนั้นเลือกช่วงเวลาการรายงานที่ต้องการ หลังจากเพิ่มตัวกรองแล้ว คุณสามารถปรับแต่งได้ โดยเลือก “การตั้งค่าด้วยตนเอง” จากรายการแบบเลื่อนลงของตัวกรอง และป้อนเงื่อนไขตัวกรองเฉพาะของคุณ
คุณสามารถเพิ่มคอลัมน์พร้อมตัวชี้วัดที่ต้องการได้ด้วยการคลิกเครื่องหมายบวกในส่วนหัวของตาราง หรือใช้ปุ่มลัด Shift + C บนอุปกรณ์ Windows และ Mac เพียงตั้งค่าช่วงเวลาการรายงานที่ต้องการ และเรียงลำดับรายการตามต้องการ
เพื่อให้การวิเคราะห์ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราได้เพิ่มชุดคอลัมน์ใหม่ด้วย ซึ่งประกอบด้วยตัวชี้วัด ‘ต่อหุ้น’ ที่สำคัญทั้งหมดอยู่แล้ว ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องตั้งค่าตัวกรองด้วยตนเอง
ตัวชี้วัด ‘ต่อหุ้น’ สามารถดูได้ในหน้าสัญลักษณ์หุ้น เพียงไปที่แท็บการเงิน เลือกสถิติ และเลื่อนลงไปที่หมวดหมู่ตัวชี้วัด ‘ต่อหุ้น’
เราหวังว่าการเพิ่มข้อมูลในครั้งนี้ของเราจะทำให้ขั้นตอนการทำงานของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น และการวิเคราะห์ตลาดหุ้นของคุณครอบคลุมยิ่งขึ้น เปรียบเทียบบริษัทต่างๆ ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อการตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และเป็นหนึ่งในกลุ่มแรกๆ ที่มองเห็นแนวโน้มที่น่าสนใจ
แจ้งให้เราทราบว่าคุณคิดอย่างไร – ความคิดเห็นของคุณจะช่วยปรับปรุงแพลตฟอร์มของเรา
ทีมงาน TradingView