ReutersReuters

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:น้ำมันดิบพุ่งขึ้น 2.3%,ตลาดรอประชุมโอเปก

นิวยอร์ค--1 ส.ค.--รอยเตอร์

  • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันศุกร์ ในขณะที่นักลงทุนหันเหความสนใจไปยังการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ในสัปดาห์หน้า และนักลงทุนคาดว่า กลุ่มโอเปกจะยังไม่ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ นักลงทุนจะรอดูการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 3 ส.ค. ในขณะที่แหล่งข่าวกล่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะพิจารณาเรื่องการคงปริมาณการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับเดิมในเดือนก.ย. แต่อาจจะมีการพิจารณาเรื่องการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันขึ้นเล็กน้อย โดยถ้าหากกลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจไม่ปรับเพิ่มปริมาณการผลิต การตัดสินใจดังกล่าวก็จะสร้างความผิดหวังให้แก่สหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเพิ่งเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียในเดือนก.ค.เพื่อโน้มน้าวให้มีการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน

  • ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนก.ย.ทะยานขึ้น 2.20 หรือ 2.3% มาปิดตลาดที่ 98.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 2.87 ดอลลาร์ หรือ 2.7% มาปิดตลาดที่ 110.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เดือนก.ย.ครบกำหนดส่งมอบในช่วงปิดตลาดวันศุกร์ ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ทะยานขึ้น 2.14 ดอลลาร์ หรือ 2.1% มาปิดตลาดที่ 103.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐและเบรนท์ต่างก็ปิดตลาดเดือนก.ค.ในแดนลบเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดตลาดเดือนก.ค.ด้วยการรูดลงเกือบ 7% จากเดือนมิ.ย. ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลงราว 4% ในเดือนก.ค.

  • ราคาน้ำมันลดช่วงบวกลงมาบ้างก่อนปิดตลาดวันศุกร์ หลังจากบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐเพิ่มขึ้น 11 แท่นในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนเป็นเดือนที่ 23 ติดต่อกัน และถือว่ายาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยสิ่งนี้บ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันในสหรัฐจะปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนจำนวนแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในสหรัฐทรงตัวในเดือนก.ค. หลังจากปรับขึ้นมานาน 10 เดือนติดต่อกัน นอกจากนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์สยังรายงานอีกด้วยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับขึ้น 6 แท่น สู่ 605 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 ก.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020 ส่วนจำนวนแท่นขุดเจาะก๊าซในสหรัฐปรับขึ้น 2 แท่น สู่ 157 แท่นในสัปดาห์ล่าสุด

  • ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นและจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ เพราะการอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลให้น้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปิดพุ่งขึ้น 1.16% ในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังในสหรัฐจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันศุกร์ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดว่าราคาน้ำมันดิบสหรัฐจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 101.28 ดอลลาร์ในปีนี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 105.75 ดอลลาร์ในปีนี้

  • นักวิเคราะห์คาดว่า เป็นเรื่องยากที่กลุ่มโอเปกพลัสจะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน เนื่องจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศประสบความยากลำบากอยู่แล้วในการผลิตน้ำมันให้ได้สูงเท่ากับโควต้าที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ สำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า กลุ่มโอเปกพลัสปฏิบัติตามมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในอัตรา 320% ในเดือนมิ.ย. โดยกลุ่มโอเปกพลัสผลิตน้ำมันต่ำกว่าโควต้าที่กำหนดไว้ราว 2.84 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิ.ย.--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

Login or create a forever free account to read this news