ReutersReuters

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:วิตกอุปทานลดลงหนุนน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้น 3.9%

นิวยอร์ค--13 ก.ย.--รอยเตอร์

  • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นเกือบ 4% ในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่ว่าอุปทานน้ำมันอาจดิ่งลง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการปรับลงจากสัปดาห์ที่แล้ว และถือเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันในสัปดาห์นี้จากความกังวลที่ว่า อุปสงค์น้ำมันอาจจะดิ่งลง โดยเป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว และเป็นผลจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดในจีน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในวันศุกร์ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ประกาศในสัปดาห์นี้ว่า ทางกลุ่มมีแผนปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงเล็กน้อย ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียขู่ที่จะระงับการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสู่ยุโรป ถ้าหากมีการดำเนินมาตรการจำกัดเพดานราคาพลังงานรัสเซีย

  • ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนต.ค.ทะยานขึ้น 3.25 ดอลลาร์ หรือ 3.9% มาปิดตลาดที่ 86.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 3.69 ดอลลาร์ หรือ 4.1% มาปิดตลาดที่ 92.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการขยับลง 0.1% จากสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการปรับลงราว 0.2% จากสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลงแตะ 87.24 ดอลลาร์ในวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการร่วงลงของอุปสงค์น้ำมัน

  • เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวต่อผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือจี-7 พยายามจะหาหนทางจำกัดรายได้จากการส่งออกน้ำมันของรัสเซียหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน โดยกลุ่มจี-7 ต้องการจะจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียเพื่อลงโทษรัฐบาลรัสเซีย และเพดานดังกล่าวควรจะกำหนดไว้ที่ระดับราคาที่เหมาะสมในตลาด และลบด้วยค่าพรีเมียมความเสี่ยงที่เกิดจากสงครามยูเครน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานสหรัฐกล่าวว่า ทำเนียบขาวไม่ได้พิจารณาเรื่องการปล่อยน้ำมันใหม่ออกจากคลังสำรองปิโตรเลียมทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ (SPR) ในปริมาณที่สูงไปกว่าปริมาณการปล่อยน้ำมัน 180 ล้านบาร์เรลที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้ประกาศไว้แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน

  • นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันศุกร์ว่า ถ้าหากเฟดสามารถควบคุมอัตราการว่างงานให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 5% เฟดก็จะสามารถดำเนินมาตรการอย่างแข็งกร้าวเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง แต่เมื่อใดก็ตามที่อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นเหนือ 5% "ก็จะมีแรงกดดันอย่างชัดเจนให้เริ่มมีการแลกเปลี่ยนกัน" และเขากล่าวเสริมว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงสามารถแบกรับแรงกดดันได้

  • บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐลดลง 5 แท่น สู่ 591 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ คณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) รายงานในวันศุกร์ว่า ผู้จัดการกองทุนปรับลดการถือครองสถานะซื้อสุทธิในสัญญาล่วงหน้าและออปชั่นน้ำมันดิบสหรัฐลง 3,274 สัญญา สู่ 165,158 สัญญาในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ก.ย.--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

Login or create a forever free account to read this news