ReutersReuters

USA:ตัวเลขศก.สหรัฐชี้ตลาดแรงงานตึงตัว,ตลาดบ้านถดถอย,เงินเฟ้อชะลอตัว

วอชิงตัน--20 ม.ค.--รอยเตอร์

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านโดยรวมในสหรัฐดิ่งลง 1.4% สู่ 1.382 ล้านยูนิตต่อปีในเดือนธ.ค. ส่วนยอดการอนุญาตสร้างบ้านโดยรวมรูดลง 1.6% สู่ 1.330 ล้านยูนิตต่อปีในเดือนธ.ค. โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า ภาวะถดถอยในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงดำเนินต่อไป โดยเป็นผลมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทางด้านเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ดัชนีภาคการผลิตภูมิภาคมิดแอตแลนติกของสหรัฐพุ่งขึ้นจาก -13.7 ในเดือนธ.ค. สู่ -8.9 ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ -11 แต่ดัชนีที่ระดับติดลบแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคโรงงานอ่อนแอลงในเดือนม.ค. ทางด้านดัชนีราคาจ่ายของโรงงานในภูมิภาคมิดแอตแลนติกดิ่งลงจาก 36.3 ในเดือนธ.ค. สู่ 24.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง และสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันเงินเฟ้อชะลอตัวลงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐที่ปรับตามปัจจัยด้านฤดูกาลดิ่งลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยดิ่งลง 15,000 ราย สู่ 190,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ม.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2022 และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 214,000 ราย โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะตึงตัว และสิ่งนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

  • นายแมทธิว มาร์ติน นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐของบริษัทอ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิคส์กล่าวว่า "รายงานนี้จะสร้างความกังวลให้กับเฟด เพราะว่าตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และนายจ้างไม่ยอมปลดพนักงานออก" และเขากล่าวเสริมว่า "เราไม่คาดว่ายอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะพุ่งสูงขึ้น ถึงแม้เศรษฐกิจชะลอตัวลง" ทั้งนี้ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในแบบที่ไม่ได้ปรับตามปัจจัยด้านฤดูกาลดิ่งลง 53,582 ราย สู่ 285,575 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ม.ค. ถึงแม้บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปประกาศในวันพุธว่า ทางบริษัทจะปรับลดพนักงานลง 10,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ลูกค้าธุรกิจคลาวด์พิจารณาทบทวนค่าใช้จ่ายในด้านนี้ และไมโครซอฟท์ปรับตัวรับความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนบริษัทอะเมซอนวางแผนจะปลดพนักงานออก 18,000 ตำแหน่ง

  • นักเศรษฐศาสตร์กล่าวเตือนว่า ถึงแม้บริษัทในภาคเทคโนโลยีของสหรัฐปลดพนักงานออกในช่วงนี้ สิ่งนี้ก็ไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐตกต่ำลง เพราะว่าบริษัทในภาคเทคโนโลยีกำลังปรับลดขนาดลงสู่ระดับที่เหมาะสม หลังจากที่เคยจ้างพนักงานมากเกินไปในช่วงที่เกิดวิกฤติโรคโควิด-19 โดยนายจอห์น เบลวินส์ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์กล่าวว่า "ภาคเทคโนโลยีเพียงแค่กลับคืนสู่ขนาดเดียวกับในปี 2020 หรือ 2021 และผมก็ไม่คิดว่าสิ่งนี้เป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย" ทั้งนี้ รายงาน "Beige Book" ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ออกมาในวันพุธแสดงให้เห็นว่า "บริษัทหลายแห่งในสหรัฐลังเลที่จะปลดพนักงานออก ถึงแม้อุปสงค์ในสินค้าและบริการของบริษัทดังกล่าวชะลอตัวลง และบริษัทหลายแห่งวางแผนที่จะปรับลดจำนวนพนักงานลงโดยผ่านทางการลาออกของพนักงานถ้าหากมีความจำเป็น" ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ยอดผู้ได้รับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องพุ่งขึ้น 17,000 ราย สู่ 1.647 ล้านรายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. และสิ่งนี้บ่งชี้ว่าคนว่างงานบางส่วนอาจประสบความยากลำบากในการหางานทำ

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านเดี่ยวในสหรัฐพุ่งขึ้น 11.3% สู่ 909,000 ยูนิตต่อปีในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2022 แต่ยอดการเริ่มต้นสร้างอาคารที่มีขนาดตั้งแต่ 5 ยูนิตขึ้นไปดิ่งลง 18.9% สู่ 463,000 ยูนิตต่อปีในเดือนธ.ค. ทางด้านยอดการก่อสร้างที่อยู่อาศัยโดยรวมดิ่งลง 3.0% สำหรับช่วงตลอดทั้งปี 2022 ทั้งนี้ ยอดการอนุญาตสร้างบ้านเดี่ยวรูดลง 6.5% สู่ 730,000 ยูนิตต่อปีในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2020 ส่วนยอดการอนุญาตสร้างอาคารที่มีขนาดตั้งแต่ 5 ยูนิตขึ้นไปพุ่งขึ้น 7.1% สู่ 555,000 ยูนิตต่อปีในเดือนธ.ค.

  • การลงทุนในภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐมีแนวโน้มหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งจะถือเป็นการหดตัวลงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในช่วงปลายทศวรรษ 2000 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ในส่วนของภาคโรงงานในภูมิภาคมิดแอตแลนติกของสหรัฐนั้น เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนียอดสั่งซื้อใหม่พุ่งขึ้นจาก -22.3 ในเดือนธ.ค. สู่ -10.9 ในเดือนม.ค., ดัชนีการจ้างงานทะยานขึ้นจาก -0.9 ในเดือนธ.ค. สู่ 10.9 ในเดือนม.ค., ดัชนีภาวะธุรกิจช่วง 6 เดือนข้างหน้าพุ่งขึ้นจาก -0.9 ในเดือนธ.ค. สู่ 4.9 ในเดือนม.ค. แต่ดัชนีแนวโน้มรายจ่ายฝ่ายทุนช่วง 6 เดือนข้างหน้าดิ่งลงจาก 16.2 ในเดือนธ.ค. สู่ 10.5 ในเดือนม.ค.--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

Login or create a forever free account to read this news