ตลาดหลักทรัพย์ไทย
ยืน 1,630 จุดได้ไปต่อ
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิค หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดบวกที่ 1,626.27 จุด เพิ่มขึ้น 13.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,649 จุด ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธที่ 9/6 ตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อย นักลงทุนวิตกว่าตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯที่จะประกาศในวันศุกร์ จะเป็นตัวแปรที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯต้องปรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกและกำลังปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,627 จุด ดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง ทำให้ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและความลาดชัน (Slope) เพิ่มขึ้น และทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,583 – 1,568 จุด กรณีที่ช่องว่างขาขึ้นเป็น Measuring gap ดัชนีตลาดจะมีเป้าหมาย (Measuring Target) อยู่ที่ 1,649 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ
จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,596 จุด อาจเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น (iv) ที่ 1,501 จุด (ข้อสังเกต คลื่น (i) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,547 จุด และคลื่น (iv) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,548 จุด ไม่ซ้อนทับกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการ Overlapping) ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3,(v) ที่มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,634 จุด และมีเป้าหมายระยะกลางอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,634 – 1,642 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,617 – 1,606 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,630 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ยืน 1,630 จุดได้ไปต่อ
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิค หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดบวกที่ 1,626.27 จุด เพิ่มขึ้น 13.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,649 จุด ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทประจำวันพุธที่ 9/6 ตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อย นักลงทุนวิตกว่าตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯที่จะประกาศในวันศุกร์ จะเป็นตัวแปรที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯต้องปรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกและกำลังปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,627 จุด ดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง ทำให้ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น สอดคล้องกับการเรียงตัวของเส้น MMA2 ที่เรียงตัวแบบตลาดขาขึ้นและความลาดชัน (Slope) เพิ่มขึ้น และทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,583 – 1,568 จุด กรณีที่ช่องว่างขาขึ้นเป็น Measuring gap ดัชนีตลาดจะมีเป้าหมาย (Measuring Target) อยู่ที่ 1,649 จุด ภาวะซื้อมากเกินจะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ทำให้ดัชนีตลาดมีพักตัวสลับกับการปรับตัวขึ้นต่อ
จากกราฟรายสัปดาห์ กรณีที่ดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,596 จุด อาจเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Collective wave) คลื่น (iv) ที่ 1,501 จุด (ข้อสังเกต คลื่น (i) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,547 จุด และคลื่น (iv) มีราคาปิดอยู่ที่ 1,548 จุด ไม่ซ้อนทับกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการ Overlapping) ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น 3,(v) ที่มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,673 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,634 จุด และมีเป้าหมายระยะกลางอยู่ที่ 1,673 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,634 – 1,642 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,617 – 1,606 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นยืนปิดเหนือ 1,630 จุด
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity