Inves_money

วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 10 พฤศจิกายน 2564

FX:XAUUSD   Gold Spot / U.S. Dollar
ทองคำนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อย 2.8 ดอลลาร์ เหตุดอลลาร์และบอนด์ร่วง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ระดับ 1,830.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำยังเปิดบวกติดต่อกันเป็นเวลา 4 วันต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ทองคำปรับหนุนขึ้นมาได้จากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการปรับร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่กลับมาอีกครั้งทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนเข้าซื้อขายในตลาดทองคำ ซึ่งวันนี้จะมีรายงานตัวเลขเกี่ยวกับเงินเฟ้อ (CPI) ที่ต้องเฝ้าจับตามองกัน สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นมีรายงานตัวเลขสำคัญของกระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ซึ่งใช้เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของการใช้จ่ายในฝั่งผู้ผลิต ตัวเลขปรับขึ้น 0.6% ในเดือนต.ค. เทียบรายเดือนจากก่อนหน้าเดือนก.ย.ตัวเลขอยู่ที่ 0.5% ซึ่งออกมาตรงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ในส่วนของดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน(Core PPI) เทียบรายเดือนตัวเลขปรับขึ้นเป็น 0.4% ในเดือนต.ค.ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.5% แต่สูงกว่าตัวเลขเดือนก.ย.ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขดังกล่าวส่งสะท้อนถึงภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐทำให้นักลงทุนกังวลต่อระบบเศรษฐกิจที่อาจจะถดถอยจากการปรับพุ่งของเงินเฟ้อดังกล่าว วันนี้ยังต้องเฝ้าตัวเลขสำคัญดังนี้
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI)(YoY)(Oct.) forecast 4.3%
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI)(MoM)(Oct.) forecast 0.4%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)(MoM)(Oct.) forecast 0.6%
จำนวนผู้ขอยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก forecast 265,000

ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำวันนี้คาดว่าตลอดทั้งวันก็ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อรอผลรายงานตัวเลขสำคัญของสหรัฐในค่ำคืนนี้ โดยหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 1822-1818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็มีโอกาสที่จะทำ High ใหม่เหนือระดับ 1832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังประเมินเป้าหมายที่ระดับ 1834-1840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ก็ต้องเฝ้าดูตัวเลขเงินเฟ้อวันนี้ว่าจะออกมาในทิศทางไหน โดยตัวเลขหากเงินเฟ้อพุ่งเกินคาดการณ์ก็อาจส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต เป็นเหตุให้ทองคำมีแรงหนุนเข้ามาและอาจวิ่งถึงระดับ 1850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากเงินเฟ้อลดลงก็จะทำให้ทองคำอาจมีโอกาสโดนปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 1800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง

===========
Indicator
===========

True RSI (14) ยังปรับฐานเส้นเหนือระดับ 50 รับแรงซื้อที่ยังหนุนตลาดทองคำ ส่วนเส้น SMA20 อ่อนตัวลงระดับ 60 แต่ยังไม่ชันมากนักสะท้อนแรงซื้อที่ยังหนุนตลาดอยู่

เส้น SMA200 วัดการเคลื่อนไหวระยะสั้นในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ปรับตัวลงต่ำจากระดับราคาและมีระยะห่างพอสมควร จึงควรระมัดระวังการปรับฐานขนาดใหญ่อีกรอบ


=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position :หากราคาทองคำปรับย่อลงมาบริเวณแนวรับระยะสั้น 1822-1818 และทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1834-1832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ก็ให้ชะลอการทำกำไรออกไปก่อนประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1840-1848 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากทองคำปรับต่ำกว่า 1818 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1832 / 1841 / 1855
-------------------------------------------
Support : 1818 / 1804/ 1795
-------------------------------------------

แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UPTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = UPTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND

การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
ราคาซื้อขายล่าสุด : 1,791.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 975.41 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : 3
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : -6.73 ตัน
---------------------------------------------------------------


*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต

Disclaimer

The information and publications are not meant to be, and do not constitute, financial, investment, trading, or other types of advice or recommendations supplied or endorsed by TradingView. Read more in the Terms of Use.